ชมความงามวิหารนอร์ธเทอดาม (Notre Dame Basilica of Montreal)

หากมีโอกาสไปเที่ยวเมืองมอนทรีออลแล้วก็ต้องแวะไปชมวิหารนอร์ธเทอดาม วิหารเก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ เป็นศิลปะแบบนีโอคลาสสิกและนีโอโกธิก ภายในวิหารประดับด้วยไม้แกะสลัก และกระจกสีสวยงาม เพดานโค้งอันใหญ่โต เรียกได้ว่า ยิ่งใหญ่สวยงามอลังการ ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองมอนทรีออล

การเดินทางท่องเที่ยวไปยังทวีปอเมริกาเหนือถือเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะการเดินทางไปเยี่ยมเยือนประเทศที่เต็มไปด้วยความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรม พร้อมเข้าชมสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ที่ประเทศแคนาดา โดยในบทความนี้ ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์สำคัญของแคนาดาอย่าง วิหารนอร์ธเทอดาม (Notre-Dame Basilica)

วิหารนอร์ธเทอดาม ณ เมืองมอนทรีออล ศูนย์รวมจิตใจของผู้คนที่ศรัทธาและสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามในด้านศิลปะ ซึ่งถ้าหากว่าจองตั๋วเครื่องบินไปแคนาดาแล้วคงไม่อยากพลาดจุดเช็กอินสำคัญแห่งนี้แน่นอน โดยก่อนจะเริ่มวางแผนการท่องเที่ยวเราอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวิหารนอร์ธเทอดาม แคนาดาแบบเจาะลึก พร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้

วิหารนอร์ธเทอดาม มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติยาวนานมามากกว่า 350 ปี

มหาวิหารนอร์ธเทอดาม บาซิลิก้า (Notre-Dame Basilica) คือ สถานที่อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่มีมานานมากกว่าหลายศตวรรษ ซึ่งถือเป็นสถานที่สำคัญที่ผ่านกาลเวลามาอย่างเนิ่นนาน ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงการประกาศการปกครองตนเองในปี ค.ศ. 1867 ของแคนาดา ไปจนถึงช่วงปี ค.ศ. 1931 ที่แคนาดารับสถานะเป็นประเทศที่เท่าเทียมกับอังกฤษ

ในปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ก็ยังคงอยู่คู่กับแคนาดามาโดยตลอด จึงเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบศาสนสถานและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญเชิงประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก Traveloka จึงอยากมาแนะนำให้ผู้ที่กำลังสนใจ ได้ลองทำความรู้จักเกี่ยวกับประวัติ สถานที่ตั้งและช่วงเวลาในการเข้าชม เพื่อให้คุณสามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายของอดีตและเข้าเยี่ยมชมได้อย่างเหมาะสม

ประวัติวิหารนอร์ธเทอดาม

มหาวิหารนอร์ธเทอดาม ประวัติศาสตร์อันแสนทรงคุณค่าที่อยู่คู่ประเทศแคนาดามาอย่างช้านาน โดยวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ. 1829 หรือประมาณ 350 ปีก่อน ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงนามว่า James O’Donnell โดยใช้การออกแบบด้านสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอทิก (Neo-Gothic architecture) ด้วยความตั้งใจที่จะฟื้นฟูสถาปัตยกรรมในยุคกลาง โดยจะมีการออกแบบผนังที่เปิดกว้าง ส่วนสูงเด่นชัด ลายเส้นที่มีความซับซ้อน และมีส่วนหลังคาโค้งแหลม การออกแบบนี้จึงทำให้เป็นวิหารแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่สวยงามและถูกอนุรักษ์มานานหลายร้อยปี ภายในวิหารยังมีรูปแกะสลัก การตัดแต่งภายในและภาพวาดบนผนังที่มีความน่าสนใจ ซึ่งต่อให้ไม่ได้มีความรู้ด้านศิลปะก็สามารถเข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ได้แน่นอน